ราคาล้างแอร์บ้าน,แอร์โรงงาน

"เมื่อไรควรล้างแอร์" คำถามนี้ผมฟังบ่อยเมื่อไปล้างแอร์ให้กับลูกค้า แอร์หรือเครื่องปรับอากาศ เมื่อเราเปิดใช้งาน ลมหรืออากาศก็จะหมุนเวียนเข้าและออกมาจากตัวแอร์ อากาศที่เข้าไป ก็จะนำเอาฝุ่นเข้าไปด้วย และไปสะสมภายในแอร์ ทำให้แอร์ของเรา ทำงานไม่เต็มที่ และไม่เย็น
 
แล้วเมื่อไรควรล้างแอร์หล่ะ ตอบเป็นข้อๆได้ดังนี้ครับ
1. เมื่อท่านเปิดแอร์แล้วรู้สึกเย็นช้ากว่าปกติ ลมไม่แรงทั้งที่เปิดสุด อันนี้ควรล้างด่วนครับ อย่าปล่อยไว้
2.เมือมีกลิ่นอับ ตอนเปิดแอร์ ก่อนที่คอมเพสเซอร์จะทำงานจะมีกลิ่น อันนี้คือแบคทีเรีย และเชื้อโรคสะสมมาก ควรล้างครับ
3.ก่อนหรือหลังจากที่คุณจะเดินทางไปที่อื่นนานๆ กลับมาใช้แอร์ควรล้างก่อนครับ เพราะแอร์เป็นที่อับ ชอบมีจิ้งจก ตุ๊กแก แมลงสาบเข้าไปขออาศัย 
4.อันนี้แนะนำครับ ล้างทุก 6 เดือนสำหรับบ้านที่ฝุ่นน้อย หรือ 4 เดือน สำหรับบ้านที่ฝุ่นเยอะ สำหรับผู้ที่รักความสะอาด และเป็นระเบียบ 
 
"อย่าปล่อยจนแอร์ไม่เย็นครับ ล้างยาก ฝุ่นจับหนาเตอะ เกิดเมือกในท่อน้ำทิ้ง น้ำหยด เปลืองไฟอีก เชื้อราขึ้นตามโบวเวอร์ ท่อทองแดงเป็นตามดน้ำยารั่ว หาไม่เจอ ช่างเติมน้ำยาหาว่าโกงอีก!!  ขอบคุณครับที่เข้าใจช่างแอร์"
 
ราคาล้างแอร์แบบติดผนัง เรียกอีกอย่างว่าแอร์วอลไทป์ (wall type)
ราคาล้างแอร์บ้านแบบล้างใหญ่ ทั้งคอยล์เย็นและคอยล์ร้อน ทุกยี้ห้อแอร์ ทั้งแอร์แบบธรรมดาและอินเวอร์เตอร์
ขนาดแอร์ btu.ราคาล้างต่อ1ชุด5ชุดขึ้นไป10ชุดขึ้นไปราคาแบบตัดล้างราคาล้างแบบใช้น้ำยาร่วมการรับประกัน
9,000-15,0004003803001,20080030วัน
15,001-24,0005004003201,50080030วัน
24,001-30,0006005004001,50080030วัน
30,001-40,0006005004501,800100030วัน
 
ราคาล้างแอร์แบบแอร์แขวน เรียกอีกอย่างว่าแอร์สปีดไทป์
ราคาล้างแอร์บ้านแบบล้างใหญ่ ทั้งคอยล์เย็นและคอยล์ร้อน ทุกยี้ห้อแอร์ ทั้งแอร์แบบธรรมดาและอินเวอร์เตอร์
ขนาดแอร์ btu.ราคาล้างต่อ1ชุด5ชุดขึ้นไป10ชุดขึ้นไปราคาแบบตัดล้างราคาล้างแบบใช้น้ำยาร่วมการรับประกัน
13000-24000800600500-100030วัน
24000-38000800800600-100030วัน
38000-480001000800700-100030วัน
48000-6000010001000800-150030วัน
 
ราคาล้างแอร์แบบแอร์กระจ่ายลมสี่ทิศทาง หรือแอร์ แบบคาสเซทCasette Type
ราคาล้างแอร์บ้านแบบล้างใหญ่ ทั้งคอยล์เย็นและคอยล์ร้อน ทุกยี้ห้อแอร์ ทั้งแอร์แบบธรรมดาและอินเวอร์เตอร์
ขนาดแอร์ btu.ราคาล้างต่อ1ชุด5ชุดขึ้นไป10ชุดขึ้นไปราคาล้างแบบใช้น้ำยาร่วมการรับประกัน
13000-24000800700600150030วัน
24000-380001000900800150030วัน
38000-4800012001000900150030วัน
48000-60000150014001200200030วัน
 

(ล้างใหญ่) คอลย์เย็น (Evaporator)

ล้างทำความสะอาดฟิลคอลย์ (Evaporator) ด้วยปั้มน้ำแรงดันสูง
ดูดและเป่าทำความสะอาดระบบท่อน้ำทิ้งด้วย (Blower)
ล้างทำความสะอาดแผ่นกรองอากาศ (Filter)
ตรวจเช็คจุดต่อสายไฟภายในระบบ และยึดสกรูสายไฟให้แน่นหนา

(ล้างใหญ่) คอลย์ร้อน (Condensing Unit)

ล้างทำความสะอาดแผงครีบคอนเดนซิ่งด้วยปั้มน้ำแรงดันสูงและ Blower
ตรวจสอบการทำงานของมอเตอร์ระบายความร้อน
ตรวจเช็คจุดต่อสายไฟภายในระบบ และยึดสกรูสายไฟให้แน่นหนา
ตรวจวัดความดันของระบบน้ำยา เช็คกำลังอัดของคอมเพชสเซอร์
ตรวจเช็คการทำงานของไทม์เมอร์ และอุปกรณ์ช่วยสตาร์ททุกชนิด ของระบบคอมเพชสเซอร์

ทำไมต้องล้างแอร์
ปัจจุบัน มลภาวะทางอากาศเช่น ฝุ่นละออง ควันพิษ เพิ่มมากขึ้น โดยเฉพาะในเมืองใหญ่ๆ เช่น เมืองหลวงของเราเป็นต้น แน่นอนมลภาวะ เหล่านี้ ไม่เป็นผลดีทั้งต่อมนุษย์ และเครื่องใช้ โดยเฉพาะ เครื่องปรับอากาศ ที่ทุกบ้านใช้กันอยู่ หลายๆ สาเหตุของแอร์ เกิดจาก เพียงแค่แอร์สกปรกหรือแอร์ตัน จากการสะสมของฝุ่น ละออง เท่านั้น ซึ่งเป็นเพียงแค่ปัญหาเล็กๆ แต่ถ้าปล่อยไว้นาน ปัญหาเล็กๆ ก็จะกลายเป็น ปัญหาใหญ่ หรือเป็น จุดเริ่มต้นของแอร์เสีย นี่ก็คือเหตุผลว่าทำไม เราถึงต้องล้างแอร์ นั่นก็คือเรา จะเสียเงิน ค่าบำรุงรักษาแอร์ น้อยกว่าการเสียเงินเพื่อซ่อมแซม แอร์บ้าน นั่นเองบ้านเรือน ทั่วไปที่มี เครื่องปรับอากาศ ควรจะบำรุงรักษาโดยการล้างแอร์เต็มระบบเป็นประจำอย่างน้อย ปีละ 1-2 ครั้ง หรือ ปีละ 3-4 ครั้ง สำหรับบ้านเรือนที่อยู่ติดถนนหรืออาคาร สำนักงานที่มีการใช้ เครื่องปรับอากาศ เต็มที่เป็นเวลานานๆ สรุป ผลจากการดูแล เครื่องปรับอากาศ สม่ำเสมอ

ประหยัดค่าไฟฟ้า
ยืดอายุการใช้งานของ เครื่องปรับอากาศ
ลดปริมาณเชื้อโรคในอากาศและการสะสมในฝุ่นละออง
เครื่ืองปรับอากาศทำความเย็นได้เร็วขึ้น
ลดปริมาณกลิ่นอับชื้นใน เครื่องปรับอากาศ
ประหยัดรายจ่ายในเรื่องค่า ซ่อมเครื่องปรับอากาศ
คุ้มค่าเงิน
ช่วยลดภาวะโลกร้อนอันเนื่องจาก ลดการใช้พลังงาน

การบำรุงรักษาที่ถูกต้องและสม่ำเสมอ ทำให้เครื่องปรับอากศมีอายุใช้งานได้ยาว นาน มีประสิทธิภาพสูง และประหยัดพลังงานไฟฟ้าตลอดเวลา ซึ่งควรปฏิบัติดังนี้
ล้างแอร์ 1. หมั่นทำความสะอาดแผ่นกรองอากาศทุก ๆ 2 สัปดาห์ เพื่อให้เครื่องสามารถ จ่ายความเย็นได้เต็มที่ตลอดเวลา
2. หมั่นทำความสะอาดแผงท่อทำความเย็น ด้วยแปรงนิ่ม ๆ และน้ำผสมสบู่เหลว อย่างอ่อนทุก 6 เดือน เพื่อให้เครื่องทำความเย็นได้อย่างมีประสิทธิภาพอยู่เสมอ
3. ทำความสะอาดพัดลมส่งลมเย็น ด้วยแปรงขนาดเล็ก เพื่อขจัดฝุ่นละอองที่จับ กันเป็นแผ่นแข็งและติดกันอยู่ตามซี่ใบพัดทุก 6 เดือนจะทำให้พัดลมส่งลมได้เต็มสมรรถนะ ตลอดเวลา
4. ทำความสะอาดแผงท่อระบายความร้อน โดยการใช้เแปรงนิ่ม ๆ และน้ำฉีด ล้างทุก ๆ 6 เดือนเพื่อให้เครื่องสามารถนำความร้อนภายในห้องออกไปทิ้งให้แก่อากาศภายนอกได้อย่างมีประสิทธิภาพ
5. หากปรากฏว่าเครื่องไม่เย็นเพราะสารทำความเย็นรั่วต้องรีบตรวจหารอยรั่วแล้ว ทำการแก้ไขพร้อมเติมให้เต็มโดยเร็ว มิฉะนั้นเครื่องจะใช้พลังงานไฟฟ้าโดยไม่ทำให้เกิดความ เย็นแต่อย่างไร
6. ตรวจสอบฉนวนหุ้มท่อสารทำความเย็นอย่างสม่ำเสมอ อย่าให้เกิดฉีกขาด
Powered by MakeWebEasy.com